Thursday, February 05, 2009

Test

Testing 123

Posted by ShoZu

Sunday, January 06, 2008

หนังที่อยากดูปีนี้


Atonement, Chalie Wilson's War, Cloverfield




Eastern Promises, Enchanted, Juno




Sweeney Todd, The Happening, Across The Universe




Walk Hard: A Dewey Cox Story, Gone Baby Gone, I'm not there




Lars and the real girl, Starting Out in the Evening, The Dark Night

Tuesday, January 01, 2008

My New Year Resolution

28 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก สำหรับปีนี้ก็ขอเลียนแบบธรรมเนียมฝรั่งที่จะตั้งคำมั่นสัญญากับตัวเองที่จะ ลงมือทำหรือเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองสำหรับปีใหม่ในแต่ละปีหรือที่เรียกกันว่า New Year Resolution สำหรับตัวเราเองคงจะเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงของตัวเองมากกว่าที่จะเป็นการ เริ่มต้นโปรเจ็คท์อะไรบางอย่าง ตอนนี้ตั้งใจว่าจะทำให้เห็นผลให้ได้ทั้งหมดถึงแม้ว่ามันจะยากสักเพียงใดก็ ตาม

1. Be myself but never be labelled.

เป็นตัวของตัวเองและไม่ยึดติดกับสถานภาพของตัวเอง ไม่เอาป้ายที่จะจำกัดการใช้ชีวิตและศักยภาพของตนเองมาแขวนคอ

2. Respect my decisions, be responsible for the consequences.

เคารพการตัดสินใจของตนเองและรับผิดชอบกับผลลัพธ์ที่ตามมา ไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย ไม่ดูถูกการตัดสินใจของตนเอง และไม่โศกเศร้าหากผลลัพธ์ไม่เป็นดังที่หวังไว้

3. More outside, less inside. More offline, less online. Expand my territories.

ใช้ชีวิตกับโลกภายนอกมากขึ้น ออนไลน์ให้น้อยลง ทำความรู้จักกับผู้คนให้มากขึ้นเพื่อขยายขอบเขตของมุมมอง การเรียนรู้ และการใช้ชีวิต

4. Enjoy the journey, be grateful when reaching the destination.

มีความสุขไปกับการเดินทาง และ เอนจอยกับสิ่งรอบข้างไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใหน อยู่กับปัจจุบัน และยินดีกับจุดหมายปลายมางที่ไปถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ปลายทางที่หวังไว้ก็ตาม


5. Be grateful for good things happening in my life.

รับรู้ถึงสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในชีวิตและตอบแทนความรู้สึกดๆเหล่านั้น

6. Never refuse the invitations, seize the opportunities.

ไม่ปฏิเสธคำเชื้อเชิญและยึดฉวยโอกาสต่างๆที่เข้ามาในชีวิต ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าเท่าที่จะเสนอให้

7. Be frugal, less material.

ใช้จ่ายอย่างรู้คุณค่า และสะสมสิ่งของนอกกายให้น้อยลง พูดง่ายแต่ทำได้ยากที่สุด

8. Grow up, move on.

ใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับช่วงเวลา และ เริ่มก้าวเดินต่อไปโดยไม่เสียใจต่อความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต

9. รักให้เป็น

ใช้ความรักเป็นแรงขับเคลื่อนชีวิตไม่ใช่สิ่งที่คอยมาทำร้าย เพราะความรักคือสิ่งที่สวยงาม ไม่ควรที่จะต้องทำให้ใครเจ็บปวด

10. Focus on what you can, not on what you can't.

มุ่งทำในสิ่งที่ตนเองทำได้ให้ดีที่สุด และ ไม่นั่งเสียเวลาหมกมุ่นกับสิ่งที่ตนเองทำไม่ได้

ทุกๆปีที่ผ่านมา เราหวังที่จะให้มีสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับชีวิต แต่สำหรับปีนี้ เราคงหวังที่จะให้ตัวเองทำชีวิตให้ดีขึ้นเอง เพราะชีวิตคือสิ่งที่เรากำหนดเอง และเราแต่เพียงผู้เดียวที่เป็นเจ้าของชีวิต ชีวิตยังมีทางเลือกใด้เราเดินอยู่เสมอไม่ว่า

Choose life, it's all my decision.

Sunday, December 23, 2007

เวลากับความหมายของชีวิต


เวลาไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น แต่การกระแสของเวลาทำให้เราต้องก้าวเดินต่อไปข้างหน้า

ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถเดินย้อนกลับเส้นทางที่เราเคยเดินผ่านมาได้ แต่เราสามารถหันหลังกลับไปมองเส้นทางที่เราได้ก้าวเดินผ่านมาได้เสมอ และเราสามารถเรียนรู้มันเพื่อใช้เป็นบทเรียนสำหรับเส้นทางทางข้างหน้าที่เราจะก้าวเดินต่อไปได้

แม้ว่าเส้นทางที่เราได้เดินผ่านมาแม้มันอาจจะไม่สวยงามนัก แต่มันก็เป็นเส้นทางเฉพาะของเราคนเดียวเท่านั้น และก็มีแต่เราผู้เดียวที่จะเป็นผู้กำหนดเส้นทางและก้าวต่อไปของเราในอนาคต

ดังนั้น เวลาไม่ได้ให้อะไรดีขึ้น แต่ตัวของเราเองที่ยืนอยู่กลางกระแสอันเชี่ยวกรากของกาลเวลาต่างหากที่สามารถทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้

ถึงแม้ความทุกข์จะไม่ใช่สิ่งที่น่าพิศมัย แต่การมีอยู่ของความทุกข์ก็เพื่อให้เราได้ก้าวผ่านมันไปเพื่อให้เราเติบโต นี่แหละคือคุณค่าและความหมายของการมีชีวิตอยู่ของมนุษย์

หากชีวิตมีแต่ความสุขสมหวัง ทุกสิ่งเป็นไปตามที่เราต้องการและเราแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยเพื่อให้ได้มันมา ความหมายของการดำรงอยู่ของตัวเราในโลกใบนี้จะมีไปเพื่ออะไร ?

Monday, December 10, 2007

Disturbia - เหล้าขวดใหม่ กลิ่นไอเก่าๆ


เรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ถูกลงโทษกักบริเวณโดยวันๆเอาแต่สอดแนมเพื่อนบ้านและเริ่มสงสัยเพื่อนบ้านคนหนึ่งว่าจะเป็นฆาตกรต่อเนื่องหรือเปล่า หนังเรื่องนี้เคยมีโปรแกรมที่จะเข้าฉายในโรงแต่ไม่รู้ว่าเหตุใดจึงไม่ได้เข้าฉาย

คงจะไม่เป็นการพูดเกินเลยว่าหากเคยดู Rear Window แล้วไม่จำเป็นต้องดู Disturbia ก็ได้ เพราะพล็อตหลักของDisturbia นั้นเอามาจาก Disturbia แบบเป๊ะๆ จะมีแตกต่างก็ในเรื่องของยุคสมัยที่ปรับให้เป็นยุคปัจจุบัน ใช้นักแสดงวัยรุ่นและมีโทนหนังที่ไม่ต่างจากหนังสยองขวัญวัยรุ่นทั่วไป

Disturbia อาจจะไม่ใช่หนังสยองขวัญชั้นเยี่ยมที่ต้องดู และถึงแม้ว่าพล็อตจะไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ก็คุณภาพของหนังก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทั้งการกำกับ การดำเนินเรื่อง และ ฝีไม้ลายมือของนักแสดง และที่สำคัญ Shia LaBeouf ยังดูเจริญหูเจริญตากว่า James Stewart เยอะ ซึ่งดูเหี่ยวมากจนแทบไม่น่าเชื่อว่า Grace Kelly จะหลงรักเข้าไปได้ยังไง

Psycho & Lil' Mario : Dem Crazy Boyz


ฟังเพลงตัวอย่างได้ที่ http://www.myspace.com/psychonyuclub

ต้องขอบอกตรงๆเลยว่าที่รู้จักอัลบั้มนี้ได้ก็เพราะมาริโอ้ให้สัมภาษณ์ว่าช่วยพี่ชายร้องเพลงในอัลบั้มฮิปฮอปใต้ดิน เลยลองไปหามาฟังดู เดินหาในสยามอยู่นานมากจนไปเจอวางขายอยู่ตรงร้านที่เห็นในหนังรักแห่งสยามนั่นแหละ ตอนแรกที่เห็นหน้าปกก็ถึงกับผงะด้วยความ Psycho และม่วงของหน้าปกทำให้ไม่กล้าหยิบในตอนแรก จนทำให้ต้องไปหาฟังเพลงตัวอย่างก่อนจึงค่อยกลับมาซื้ออีกทีนึง

ตอนแรกเข้าใจว่างานเพลงมันต้องเป็นอารมณ์ฮิปออปฮาร์ดคอร์ประเภทต้องคอฟังฮิปออปโดยเฉพาะเท่านั้นถึงจะฟังได้ แต่เมื่อลองฟังทั้งอัลบั้มแล้วก็พบว่าโดยภาพรสมแล้วเป็นงานเพลงฮิปฮอปอาร์แอนด์บีที่ภาคดนตรีและการเรียบเรียงทำได้ดีไม่แพ้อัลบั้มอาร์แอนด์บีทั่วๆไป เผลออาจดีกว่าหลายๆอัลบั้มจากประเทศเจ้าของภาษาด้วยซ้ำ ที่ว่าเป็นใต้ดินก็เห็นจะเป็นเรื่องของภาษาและเนื้อหาที่ค่อนข้างแรงพูดถึงแบบไม่เกรงใจผู้ฟังทั่วไปเอาเสียเลย

อารมณ์เพลงในอัลบั้มให้ความรู้สึกเหมือนฟังอัลบั้มฮิปฮอปในยุค90s ที่มีท่วงทำนองที่ติดหูชวนให้ขยับแข้งขยับขา เต็มไปด้วยรายละเอียดของดนตรีและลูกล่อลูกชนทำให้ฟังได้เรื่อยๆไม่น่าเบื่อ มีการแซมปลิ้งบ้างแต่ไม่เอยะเกินไป และก็มีการfeaturing โดยศิลปินฮิปฮอปไทยหลายๆคน ซึ่งก็ขอสารภาพเลยว่ารู้จักแค่คนเดียวคือดาจิมที่มาfeaturingในเพลง Say Ganja ให้อารมณ์หลอกหลอนล่องลอยเหมือนชื่อเพลง

เพลงเด่นๆในอัลบั้มก็มีI'm Hood ที่ให้อารมณ์อาร์แอนด์บีสนุกๆเด่นไปด้วยเสัยงเครื่องเป่าและคอรัสใสๆ Like Oh!ที่มีบีทที่หนักแน่น เหมาะแก่การเปิดในผับมากๆ Youเพลงอาร์แอนด์บีชิลๆ ที่แซมปลิ้งเพลงOnly Youเข้ามาจนกลายเป็นเพลงที่เรียกได้ว่าน่ารักที่สุดในอัลบั้ม U R My Loveเป็นเพลงที่ป็อปที่สุดในอัลบั้มชนิดที่ว่าถ้าเปลี่ยนให้เป็นการร้องแบบธรรมดาแล้วละก็เอาไปตัดเป็นซิงเกิ้ลวงบอยแบนด์ได้เลย และเพลงปิดท้าย Change My Life ที่เป็นอาร์แอนด์บีช้าๆพร่ำพรรณาถึงความยากลำบากในชีวิตของตัวเอง(แบบว่าเสมือนตัวเองอยู่ในghettoประมาณนั้น)

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอัลบั้มที่คุ้มค่าเงิน 240 บาทที่เสียไปและก็คงจะติดตามกันไปเรื่อยๆหากไม่เปลี่ยนแนวทางเพลงหรือเลิกทำไปเสียก่อน น่าเสียดายที่ไม่ค่อยมีการโปรโมตเลย ตอนนี้ก็พยายามหาอยู่ว่าจะมีแสดงสดที่ใหนบ้างใหมจะได้ตามไปดู ก็หวังให้ขายได้เยอะๆจะได้มีอัลบั้มต่อไปตามมา เดี๋ยวจะพยายามเป็นหน้าม้าให้


10 อันดับหนังโปรดแห่งปี 2007

ปีนี้เรียกได้ว่าเป็นปีที่แปลก ไปจากปีก่อนๆที่เราเปลี่ยนสไตล์การดูหนังจากเดิมที่ดูในโรงเยอะมาก กลายมาเป็นดูในโรงน้อยแต่มากแต่จะเน้นหนักไปดูวีซีดีแทน แต่ถึงกระนั้น กลับรู้สึกว่าได้รู้จักหนังดีๆมากกว่าตอนดูในโรงเสียอีก หลายๆเรื่องอาจไม่ใช่หนังที่ฉายปีนี้แต่เนื่องจากกว่าเราได้ดูในปีนี้ จึงจะจัดให้เป็นหนังที่ชื่นชอบของปีนี้แทน

1. รักแห่งสยาม



หนังรักที่ดีที่สุดในรอบหลายๆปีที่ผ่านมา ตัวหนังเล่าเรื่องถึงความรักหลายๆรูปแบบที่อยู่รอบๆตัวเราทั้งความรักของ ครอบครัว หนุ่มสาว เพื่อนฝูง หรือแม้แต่ความเอื้ออาทรจากคนที่แทบจะไม่รู้จักกัน เป็นหนังที่ทำให้รู้สึกทั้งเหงาและศรัทราในความรักไปพร้อมๆกัน เป็นหนังรักที่จะอยู่ในใจไปอีกนานแสนนาน

2. Hairspray, Ratatouille

ละครเพลงและอนิเมชั่นที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากนักวิจารณ์และ คนดู ทั้งสองเรื่องเล่าถึงความตั้งใจที่จะทำตามความฝันของตนเองที่ถึงแม้ว่าโอกาส จะประสบความสำเร็จอาจมีเพียงน้อยนิด และอุปสรรคต่างๆไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญเลยหากหัวใจมีความปรารถนาอันแรงกล้า ทั้งสองเรื่องเป็นภาพยนต์ที่ดูแล้วอิ่มเอมหัวใจและทำให้โลกหม่นๆใบนี้ดูสดใส ขึ้นมาทันที

3. Curse of Golden the Flowers และ After This Our Exile http

หนังจีนสองเรื่องนี้เล่าเรื่องของการล่มสลายของครอบครัวอันเนื่องมาจากความ เห็นแก่ตัวของผู้ที่เป็นพ่อ ซึ่งท้ายที่สุดลูกๆกลับต้องเป็นผู้ที่ต้องมารับผลของการกระทำนั้นๆ โดยไม่มีทางเลือกและไม่อาจปฏิเสธได้ ถึงแม้โปรดักชั่นของทั้งสองเรื่องจะต่างกันราวฟ้ากับดินแต่ก็สามารถนำเสนอ ประเด็นสำคัญๆได้อย่างดีเยี่ยมไม่แพ้กัน

4. Whisper of the Heart, Only Yesterday, Ocean Waves

อนิเม3เรื่องจากสตูดิโอจิบลิที่ไม่ใช่เรื่องราวแฟนตาซีแต่กลับทำได้ดีและกินใจมากกว่าหนังที่ใช้คนแสดงจริงๆเสียอีก
- Whisper of the Heart - เรื่องราวของแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้นมาจากความรัก และความหมายความพยายามที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้ประสบความสำเร็จ
- Only yesterday - การเดินทางตามหาความรู้สึกที่จริงของตนเองและความหมายของชีวิต และการปลดปล่อยตัวเองจากบาดแผลในอดีตที่คอยปิดกั้นหัวใจไม่ให้เปิดรับสิ่ง ดีๆที่เข้ามาในชีวิต
- Ocean Waves - ความหอมหวานของความทรงจำในอดีต และรักครั้งแรกที่หัวใจไม่อาจลืมเลือนไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใหร่ก็ตาม

5. Princess Mononoke, Spirited Away, Howl's Moving Castle

อนิเมระดับอลังการงานสร้างของสตูดิโอจิบลิที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบทั้งงาน ด้านภาพที่เต็มไปด้วยรายละเอียดและจินตนาการ และการเล่าเรื่องอันปราณีต มีชั้นเชิงดูสนุกและส่งสารไปยังคนดูได้อย่างมีชั้นเชิง ทั้งประเด็นของการรุกรานธรรมชาติของมนุษย์ใน Princess Mononoke การเรียนรู้เพื่อจะเติบโตใน Spirited Away และอานุภาพของความรักและการเสียสละใน Howl's Moving Castle

6. The Girl Who Leapt Through Time, Steamboy, Appleseed

อนิเม3เรื่องที่ไม่ได้มาจากสตูดิโอจิบลิ
- The Girl Who Leapt Through Time - หนังตั้งคำถามกับคนดูว่า หากคุณสามารถย้อนเวลากลับไปได้ คุณจะแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในอดีตได้อย่างไร และคุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าสิ่งที่คุณจะทำเพื่อแก้ไขนั้นจะไม่ก่อให้เกิดผล กระทบอื่นๆตามมา หรือว่าท้ายที่สุดแล้วแก้ไขความผิดพลาดในอดีตไม่ใช่สิ่งสำคัญอะไรเลย ตราบใดที่เราอยู่กับปัจจุบันและยึดฉวยเวลาในปัจจุบันให้มากที่สุด
- Steamboy, Appleseed - โดดเด่นด้วยงานภาพอันตื่นตาตื่นใจที่จะเป็นต้นแบบให้กับอนิเมในอนาคต และประเด็นของผลกระทบของเทคโนโลยีที่มีต่อมนุษย์ อะไรคือสิ่งที่มีผลกระทบของต่อการดำรงอยู่ของมวลมนุษยชาติ ตัวเทคโนโลยีเองหรือว่ามนุษย์ที่เป็นผู้ใช้


7. Body ศพ #19 และ แฝด

ภาพยนต์สยองขวัญชั้นเยี่ยมทั้งการสร้างบรรยากาศ ความมีชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง และนักแสดงที่เข้าถึงบทบาท ชนิดที่เรียกได้ว่าสามารถนำไปฉายต่างประเทศได้โดยไม่อายใคร ถึงแม้ว่าเรื่องราวของทั้งสองเรื่องจะแตกต่างกันแต่ก็มีที่มาของปมที่เหมือนกันคือเรื่องความเจ็บปวดของการไม่สมหวังในความรัก หลายๆคนคงดูจบแล้วถึงกับผวาอาจไม่กล้าบอกเลิกกับแฟน

8. Pirates of the Caribbean 3 , Spider-man 3 , Transformers

อาจจะไม่ได้ประทับใจอะไรมากนักกับหนังทั้งสามเรื่องนี้ แต่ก็ยอมรับว่าข่วงเวลาที่หมดไปกับการดูหนังทั้งสามเรื่องนี้เป็นช่วงเลาแห่งความสนุกที่ทำให้ลืมวันเวลาไปชั่วขณะ และได้รับความบันเทิงเต็มที่อดังที่หนังทั้งสามเรื่องได้วางตัวเอาไว้

9. Half Nelson & A Guide to Recognizing Your saints

หนังอินดีระดับรางวัลทั้งสองเรื่องที่เป็นเหมือนอัตชีวประวัติของตัวเอกที่ดูแล้วทำให้มองย้อนไปถึงชีวิตของตัวเอง
- Half Nelson เล่าเรื่องของความขัดแย้งของครูหนุ่มที่ใช้เวลาช่วงกลางวันสอนหนังสือและกลางคืนเล่นยา หนังแสดงให้เห็นถึงความจริงของชีวิตที่ต้องเผชิญกับความขัดแย้งของอุดมการณ์ของตัวเองกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้
- A Guide to Recognizing Your saints เล่าเรื่องถึงการมองย้อนกลับไปถึงความต้องการอย่างแรงกล้าของเด็กหนุ่มที่ต้องการหลบหนีออกไปจากชีวิตที่ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งดีๆเหลืออยู่ในชีวิต และการรับรู้ถึงความรักและห่วงใยของผู้คนที่อยู่รอบกายที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงที่แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไรก็ตาม

10.Hot Fuzz & 300

สองเรื่องนี้เป็นหนังที่ดูแล้วเอนเตอร์เทนล้วนๆ เรื่องแรกก็ฮาอย่างมากมายที่เอาหนังหลายๆสไตล์มายำได้อย่างน่าสนใจ และเรื่องหลังก็นั่งดูไปและพยายามเตือนให้ตัวเองหายใจอยู่ตลอดเพราะภาพอลังการมาก คงไม่ต้องบอกว่าดูจบแล้วก็ร้องให้อีกตามเคย

อย่างไรก็ดีค่อนข้างพอใจกับการดูหนังในปีนี้ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ดูในปริมาณที่เยอะแต่อาจจะเป็นเพราะอายุและประสบการณ์ที่มากขึ้นเลยทำให้มองอะไรได้อย่างลึกซึ้งและมีอารมณ์ร่วมไปกับหนังหลายๆเรื่องๆได้อย่างเต็มที่ คงต้องรอดูกันต่อไปว่าในปีหน้าจะมีหนังเรื่องใหนมาทำให้เราตื่นตาตื่นใจได้เหมือนกับปีนี้อีก

Monday, October 29, 2007

Bad Dream, Good Meaning

Last night I had a bad dream that while I was watching TV about murderer, someone call me that he knew that one of my colleague was a killer for sure, just like in TV show. I was scared but felt safe as it was not about me (it seemed like I had killed someone too). While I was looking for a place to hide, the guy show up and chase me up the stair which lead to the darkness. Then I woke up.

Sounds like a bad dream but when I lookup the meaning at Dream Moods, the meanings are surprisingly goods.

Stairs
To dream that you are walking up a flight of stairs, indicates that you are achieving a higher level of understanding. You are making progress into your spiritual/emotional/material journey.


Killing
To dream that you killed someone, forewarns that heavy stress may cause you to lose your temper and self-control. Identity the characteristics of the person that you have killed and ask yourself if you feel any rage towards this person in your waking life. You may be expressing some rage or hatred toward this person.

To dream that you have been killed, suggests that your actions are disconnected from your emotions.

This dream may also represent a part of you or your life that you wish would leave you alone and stop creating a nuisance. Killing may represent the killing off of old parts of yourself and old habits.


Chase
To dream that you are being chases, signifies that you are avoiding a situation that you do not think is conquerable. It is often a metaphor for some form of insecurity. In particular, to dream that you are chased by an animal, represents your own unexpressed and unacknowledged anger which is being projected onto that animal. Alternatively, you may be running away from a primal urge or fear.


Not sure if these are true.

Wednesday, September 19, 2007

Dream Moods: Your Dream Symbol Interpretation

Last night I dreamed that I saw someone drown in front of me, and here is the interpretation I found :

Dream Moods: Your Dream Symbol Interpretation: "To see someone drowning in your dream, suggests that you are becoming too deeply involved in something that is beyond your control. Alternatively, it represents a sense of loss in your own identity. You are unable to differentiate who you are anymore."

Am I really ?